วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

DAY 2 : (また)自己紹介

30.01.2017


  ครั้งนี้อาจารย์ก็ได้ให้งานเหมือนเดิมคือให้ลองกลับไปเขียน 魅力的な自己紹介 โดยอ้างอิงกับเทคนิคต่างๆที่อาจารย์สอนในคาบ ตัวอย่างเช่น ถ้าอยากให้คนจดจำชื่อเราได้ โดยเฉพาะชื่อของคนไทยที่อาจจะไม่คุ้นหูสำหรับคนญี่ปุ่น รวมถึงการออกเสียงซึ่งค่อนข้างยากเช่นกัน จึงควรหาเคล็ดลับเพื่อให้คนจำเราได้ เช่น บอกความหมายของชื่อ พูดชื่อของตัวเองซ้ำๆ นอกจากนี้คนไทยยังมีชื่อเล่นอีกด้วย
 
   ชื่อเล่นจริงๆของเราคือ ผักกาด แต่ถ้าออกเสียงเป็นภาษาญี่ปุ่นจะเป็น パッカード ยาวพอๆกับชื่อจริงและยังออกเสียงยากด้วย (笑) ตอนที่ไปแลกเปลี่ยนเลยให้เพื่อนญี่ปุ่นเรียกว่า リン จากชื่อจริง
リンラダー 

  ส่วนเรื่องต่อมาคือการแนะนำตัวโดยการเลือกพูดเรื่องใดเรื่องหนึ่งเผื่อให้มีความเป็นเอกลักษณ์ มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียว(?) หรือมีการเล่าเรื่องราว (エピソード) 

  รอบก่อนที่เขียนแนะนำตัวไปเขียนแค่ชื่อจริงซึ่งยาวกว่า เขียนงานอดิเรก รวมไปถึงวิธีลดความเครียด ซึ่งอาจมีประเด็นหลากหลายเกินไปและไม่ได้เขียนรายละเอียดในแต่ละประเด็นเท่าที่ควรเนื่องจากข้อจำกัดเรื่องความยาว คิดว่าหากแนะนำตัวยาวเกินไปอาจทำให้คนฟังเบื่อได้ จึงอยากเล่าเรื่องเดียวให้ละเอียด ซึ่งเรื่องที่เลือกเป็นงานอดิเรกคือถ่ายรูป จึงลองบรรยายเหตุผลที่ชอบ และเผื่อมีคนที่สนใจในเรื่องถ่ายรูปเหมือนๆกันอาจจะมีประเด็นในการสนทนาในคราวหลังที่พบกัน

  นี่คือบทแนะนำตัวที่ลองเขียนดูจากสิ่งที่อาจารย์แนะนำและได้รับการแก้ไขจากคนญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่ที่ถูกแก้จะเป็นไวยกรณ์

「  初めまして。リンラダーと申します。呼びにくかったら、リンと呼んでください。チュラーロンコーン大学で日本語を専攻しています。趣味は写真を撮ることです。高校の時から興味を持っていて、どこに行っても、いつも大好きなカメラを持って行っています。私が得意なのは人物写真です。人の写真を撮って、その人がきれいだねと褒めてくれて、プロファールの写真などに使ってくれると、とても嬉しいです。もし、写真に興味を持っている人がいたら、私と話してください。どうぞよろしくお願いします。」

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560

DAY 1 : 自己紹介

10.01.17

         「はい、みんなさん、はじめまして。私はリンラダーと申します。今、チュラーロンコーン大学日本語専攻勉強しています。今、私は日本の色について研究しています。はい。そして、勉強以外のことはストレスがある時私はだいたい音楽聞いて、あとは、友達と遊んでいます。はい、これで、よろしくお願いします。」

    นี่คือประโยคแนะนำตัวที่ได้พูดกับเพื่อนๆในกลุ่มในคาบภาษาญี่ปุ่น  ถึงแม้จะเคยแนะนำตัวเป็นภาษาญี่ปุ่นมาหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็ยังรู้สึกตื่นเต้นจึงทำให้ทำได้ไม่ดีเท่าที่ต้องการ ไม่ว่าจะพูดติดขัด ผิดไวยกรณ์ หรือลืมสิ่งสำคัญที่ต้องการจะพูด

   เมื่อลองมาฟังสิ่งที่ตัวเองพูดไป จึงมีหลายจุดที่ต้องการจะแก้ไข เช่นการใช้คำว่า はい มากจนเกินไป การใช้คำว่า 今 หรือ そして ซึ่งปกติแล้วคนญี่ปุ่นไม่ใช้กัน รวมไปถึงการละคำช่วยมากจนเกินไป

   นอกจากนี้ยังมีหลายประโยคที่อยากจะแก้ไขเช่น 「勉強以外のことはストレスがある時私はだいたい音楽聞いて、あとは、友達と遊んでいます。」เป็น 「ストレス解消は音楽を聞いたり、友達と遊んだりすることです。」ซึ่งในประโยคนี้เป็นการยกหัวข้อขึ้นมาเป็นประธานโดยการใช้ は ซึ่งคนญี่ปุ่นมักใช้กัน

 แต่จริงๆแล้วถ้าพูดถึงวิธีแก้เครียด สำหรับเราคงเป็นการดูหนังผีล่ะมั้ง 555 ถ้าพูดไปแบบนั้นอาจจะน่าสนใจและทำให้คนจำเราได้ก็ได้นะ