วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

DAY 5 : [นอกเรื่อง] 日本風メイク

22.02.17

    อยากลองเขียนอะไรที่ไม่เกี่ยวกับบทเรียนซักหน่อย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรดี แต่พอดีช่วงนี้กลับมา

ชอบการแต่งหน้าสไตล์ญี่ปุ่นหลังจากไปคลั่งไคล้เทรนด์เครื่องจากฝรั่งตะวันตกอยู่ซักพัก (และหมดตัว

ไปเยอะอยู่ T^T)

    ต้องบอกก่อนว่าเป็นคนที่สนใจด้านการแต่งหน้าและแฟชั่นมาตั้งแต่สมัยม.1 และเทรนด์ที่ติดตามบ่อย

ที่สุดคือของญี่ปุ่น ซื้อนิตยสารแฟชั่นมาดูสไตล์การแต่งหน้าแต่งตัวประจำเลย

    จริงๆคิดว่าการแต่งหน้าแบบญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน สไตล์

การแต่งหน้าของสาวญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ถ้าพูดถึงการแต่งหน้าของสาวญี่ปุ่น หลายคน

คงนึกภาพสาวญี่ปุ่นติดขนตาหนาๆ ปัดแก้มหนักๆ และปากเน้นทาสีสดใสและมีความแวววาว

    เรื่องปัดแก้มนี่ต้องยกให้สาวญี่ปุ่นจริงๆ ปัดหนัก ปัดจริงจัง ปัดให้เห็นว่าปัด 5555 (แต่ถ้าไม่ให้เห็นว่า

ปัดจะปัดทำไมละเนอะ)



(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)


    ก็ไม่ผิดถ้าจะคิดภาพแบบนั้น แต่จริงๆแล้วการแต่งหน้าที่เป็นที่นิยมของสาวญี่ปุ่นจริงๆเท่าที่เห็นมาน่า

จะเป็นแต่งหน้าแบบธรรมชาติ หรือ ナチュラルメイク พูดง่ายๆคือแต่งเหมือนไม่แต่งนั่นแหละ และ

เป็นการแต่งหน้าที่เรากำลังพยายามจะแต่งให้ได้อยู่ในช่วงนี้



(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

     
     ประมาณนี้ที่อยากได้ แต่สาวญี่ปุ่นขาวมากและผิวดีมากแบบไม่จำเป็นต้องลงรองพื้น บีบี 

คอนซีลเลอร์ หรืออะไรทั้งนั้น (อิจฉานิดๆ555)

     แต่นอกจากแต่งหน้าแบบธรรมชาติ ในบางครั้งสาวญี่ปุ่นก็มีเทรนด์แต่งหน้าที่เห็นแล้วรู้สึกว่า จะดีหรอ

ออกมาให้เห็นอยู่เป็นช่วงๆ ตัวอย่างเช่นภาพด้านล่าง

(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)


  ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าจะลงสีอายชาโดว์หรือบลัชออนสีชมพูหรือสีแดงที่ใต้ตาให้เด่นออกมา 

การแต่งหน้าแบบนี้เรียกว่า ウサギメイク หรือการแต่งหน้าเลียนแบบกระต่าย เป็นเทรนด์ที่มาแรงใน

ช่วงปลายปี 2015-2016 สาวญี่ปุ่นเขาบอกว่าแต่งแบบนี้ผู้ชายจะมองว่าน่ารักน่าทะนุถนอมค่ะ

เหมือนกระต่ายขาวตาแดงๆใกล้จะร้องไห้ ต้องการการปลอบโยน (.....)

   การแต่งหน้าอีกเทรนด์นี่ค่อนข้างน่าแปลกใจ(ว่าคิดได้ยังไง ครีเอทสุดๆ) เรียกว่า 二日酔いメイク

หรือแต่งให้เหมือนคนเมาค้างค่ะ เน้นโทนสีแดงเหมือนกัน

(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)


    สวยไม่สวยก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน จริงๆแล้วแบบไหนที่ทำให้เรามั่นใจก็แต่งไปเถอะค่ะ

อย่าไปคิดมาก 

   สำหรับวันนี้ก็พอแค่นี้ดีกว่า ขอตัวไปฝึกแต่งหน้าต่อ(ล้อเล่นค่ะ5555) สวัสดีค่ะ ^^



วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

DAY 4 : デザイン


    16/02/2560

    คาบที่ผ่านมาได้เรียนเรื่องเกี่ยวกับการวางรูปแบบของการนำเสนอต่างๆ โดยในคาบเรียนนี้ต้องนำไปประยุกต์ใช้กับสไลด์ Power point ที่เป็นงานกลุ่ม จริงๆแล้วเชื่อว่าทุกๆคนก็คงได้ทำ Power point กันมาตั้งแต่ประถมแล้วล่ะ เพียงแต่การทำสไลด์ให้น่าสนใจและอ่านง่ายนั้นยังมีเทคนิคอีกมากที่เราอาจจะยังไม่รู้

   หนังสือที่อาจารย์ให้มาศึกษาชื่อว่า 一生使える見やすい資料のデザイン入門 (森重湧太,2016) หน้าตาเป็นแบบนี้


    
    ข้างในก็จะแนะนำว่าการวางรูปแบบแบบไหนที่ดีไม่ดี และยังมีตัวอย่างเป็นรูปภาพประกอบเพื่อให้เข้าใจง่าย พอได้ลองอ่านก็พบว่าเป็นหนังสือที่น่าสนใจและมีประโยชน์มากเพราะในชีวิตมหาวิทยาลัยรวมไปถึงการทำงาน เราก็ยังจำเป็นต้องใช้ Power point ในการนำเสนอสิ่งต่างๆ และหากเราสามารถทำให้สไลด์ของเราน่าสนใจและเข้าใจง่ายได้ก็เป็นสิ่งที่ดีทั้งต่อตัวเราและผู้ชม

  เท่าที่ได้อ่านมีหลายหัวข้อที่ชอบและคิดว่าเป็นประโยชน์ เช่น การวาง Layout รูปภาพ หากมีทั้งภาพใหญ่และภาพเล็กจะทำให้ดูไม่เป็นระเบียบ แต่ถ้าเราวางภาพให้อยู่ในตำแหน่งเดียวกันและมีขนาดเท่ากันจะทำให้สไลด์ดูสะอาดตาและสวยงามมากกว่า 



      
      จากภาพเป็นตัวอย่างที่ปรากฏในหนังสือ จะเห็นได้ว่าฝั่งซ้ายที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีจะมีการวาง Layout ที่ทำให้อ่านยากและไม่เป็นระเบียบ หากเราแก้เป็นแบบขวาก็จะดูสบายตาและมีลำดับมากขึ้น

      


     ตัวอย่างด้านบนเป็นอีกหัวข้อที่ชอบ คือ เป็นการจัดเรียงข้อความให้เป็นกรุ้ป อยากตัวอย่างด้านขวาซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดี เรื่องที่พูดถึงคือเรื่องเครื่องขายของอัตโนมัติ จะเห็นได้ว่าแนวตั้งจะมีการเรียงลำดับขั้นตอนตั้งแต่การใส่เงิน การเลือกสินค้า และสุดท้ายคือเงินทอน  ส่วนแนวนอนจะเป็นความสัมพันธ์แบบเปรียบเทียบ เช่น เหรียญและธนบัตร ร้อนและเย็น ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นและดูเป็นระเบียบมากขึ้นอีกด้วย

    จากตัวอย่างต่างๆในหนังสือทำให้รู้สึกว่าเป็นหนังสืออีกเล่มที่น่าอ่านและมีประโยชน์อย่างมาก คำศัพท์ที่ใช้ก็ไม่ยากจนเกินไปรวมถึงมีการใส่ภาพประกอบเพื่อช่วยในการอธิบายอย่างละเอียด เป็นหนังสืออีกเล่มที่ควรมีไว้ในครอบครองจริงๆ


วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

DAY 3 : 自己紹介 again and again

03.03.17

   คราวนี้ในคาบเรียนก็ต้องพูด 自己紹介 อีกแล้ว แต่รู้สึกว่าทำไปเท่าไหร่ก็ยังไม่ชินและพูดไม่ได้อย่างที่ต้องการ คงเป็นเพราะเวลาต้องพูดต่อหน้าคนเยอะๆยังคงรู้สึกตื่นเต้น

   รอบนี้อาจารย์ให้เลือกแนะนำตัวสามจากสี่หัวข้อ ที่อาจารย์ให้มามี 名前、研究、性格 และ ストレス解消 ที่เลือกพูดคือ 名前、研究、และ ストレス解消 ส่วน 性格 ไม่รู้จะอธิบายตัวเองยังไงดี

はい、みんなさん、初めまして。リンラダーと申します。長かったらリンと呼んでください。あのう、研究は日本の伝統の色について研究しています。例えば、あのう、名前の由来などです。はい。ストレス解消に行うことは怖い話を見たり、読んだりしています。特に日本の怖い話が大好きです。よろしくお願いします。」

   จากที่ลองถอดเสียงจากที่อัดมาจากในคลาสพบว่าพูดได้ดีขึ้นเล็กน้อย มีการเสนอชื่อที่น่าจะเรียกและจำง่ายสำหรับคนญี่ปุ่นแทนชื่อจริงที่ยาวกว่า ส่วนเรื่องเคงคิวก็ได้อธิบายรายละเอียดโดยการยกตัวอย่างเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจมากขึ้นตามที่ได้เรียนมาในคาบเรียน

  แต่ก็ยังมีส่วนที่อยากปรับปรุงคือ การพูด はい มากเกินไป และประโยค 研究は日本の伝統の色について研究しています。คิดว่าอยากจะแก้เป็น  日本の伝統の色について研究しています。หรือ 研究は日本の伝統の色についてです。

  โดยรวมถือว่าพอใจในระดับหนึ่งกับการแนะนำตัวของตัวเอง แต่ก็คิดว่ายังสามารถพัฒนาได้อีกเพื่อให้แนะนำตัวได้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังคงรู้สึกประหม่าเวลาแนะนำตัว คิดว่าหากฝึกฝนบ่อยๆน่าจะช่วยให้ประหม่าน้อยลงได้